Slime Rancher 2 จะเปิดให้เล่นภายในวันที่ 23 ก.ย. นี้

Slime Rancher 2 จะเปิดให้เล่นภายในวันที่ 23 ก.ย. นี้

Slime Rancher 2 ภาคต่อของเกมส์ผจญภัย และบริหารจัดการฟาร์มสไลม์ ได้ประกาศถึงการเตรียมเปิดให้เล่นภายในวันที่ 23 กันยายน 2565 บนแพลตฟอร์ม Steam, Epic Games Store และบริการ Game Pass (23 ส.ค. 2565) Slime Rancher 2 ภาคต่อของเกมส์เกมส์ผจญภัย และบริหารจัดการฟาร์มสไลม์ที่ได้รับความนิยมเป็นมาอย่างมากเมื่อปี 2017 ได้ประกาศเปิดตัว พร้อมเผยถึงวันปล่อยตัวให้ได้เล่นกันบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของ PC ภายในเดือนกันยายนนี้

โดยตัวเกมส์นี้นั้น จะถือว่าเป็นภาคต่อโดยตรงของตัวเกมส์ดั้งเดิม 

ที่จะให้ผู้เล่นได้เพลิดเพลินกันต่อกับการผจญภัยของ Beatrix LeBeau นักจับสไลม์ – ตัวละครหลักที่เราจะได้เล่นกัน ซึ่งตัวเกมก็ยังจะคงระบบการเล่นต่าง ๆ ไว้ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัย, การสร้าง, การเพาะเลี้ยง และที่แน่นอนที่สุดการไล่จับสะสมเจ้าสไลม์มาแลกเป็นเงิน

แต่ความแตกต่างระหว่างตัวเกมส์ภาคที่ 2 และภาคแรกนั้นจะอยู่ตรงที่ตั้งที่ได้เปลี่ยนไปเป็นบนเกาะสายรุ้ง (Rainbow Island) ที่ถือว่ามีความสวยงามเพิ่มมากขึ้นกว่า Far Far Range รวมถึงมีความหลากหลายด้วยเช่นกัน

แน่นอนที่ว่าเมื่อพูดถึงสภาพแวดล้อมใหม่แล้วนั้น เราก็จะได้สไลม์สายพันธุ์ใหม่อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สไลม์ที่มีลักษณะเหมือนปุ้ยฝ้าย และมีหูกระต่าย, สไลม์ที่มีลักษณะเหมือนปลาตกเบ็ด โดยผู้เล่นสามารถเพาะเลี้ยงเหล่าสไลม์ข้ามสายพันธุ์เพื่อสร้างสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาได้เหมือนเกมส์ภาคก่อน

ตัวเกมส์ที่จะปล่อยในวันที่ 23 กันยายน 2565 จะเป็นในรูปแบบ Early Access ที่เป็นการเปิดให้ได้เล่นกันก่อน ซึ่งตัวเกมส์นั้นก็มีเนื้อหาตั้งต้นให้ผู้เล่นสามารถสำรวจพื้นที่ – เนื้อเรื่อง และเพาะพันธุ์เหล่าสไลม์ไปได้เป็นระยะเวลาซักพักใหญ่เลยทีเดียว Monomi Park ทีมงานผู้พัฒนาได้เปิดเผยว่าตัวเกมส์จะอยู่ในรูปแบบดังกล่าวเป็นเวลา 18 เดือน โดยในระหว่างนั้นทางทีมงานก็ได้มีแผนในการพัฒนาเนื้อ และจะไม่มีการเร่งปั้นอย่างแน่นอน อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ตัวเกมส์จะเปิดให้ได้เล่นกันภายในวันที่ 23 กันยายน 2565 บนแพลตฟอร์ม Steam, Epic Games Store และบริการ Game Pass ของ Microsoft

มีการ “ยืนยัน” กันมาอีกครั้งกับการที่ว่าสมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นเรือธงของ Samsung – Galaxy S23 Ultra นั้น จะทำการใช้งาน กล้อง ที่เซนเซอร์ขนาดความคมชัด 200MP (20 ส.ค. 2565) เราเคยได้ยินกันมาหลายครั้งแล้วก็ว่าได้กับข่าวที่ว่า สมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นเรือธงของ Samsung – Galaxy S23 Ultra จะใช้งาน กล้อง ประจำตัวเครื่องที่มีเซนเซอร์ขนาดความคมชัดถึง 200MP มาในคราวนี้ก็มีการ “ยืนยัน” มาอีกครั้งหนึ่ง

โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวภายในประจำประเทศเกาหลีใต้ที่ว่า บริษัทได้ทำการแจ้งให้หุ้นส่วนด้านกล้องรายใหญ่ได้รับทราบว่าจะใช้งานกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาด 200MP ในสมาร์ทโฟนตัวท็อปของรุ่นเรือธงรุ่นต่อไป ซึ่งในเวลานี้กล้องที่มีเซนเซอร์ใหญ่ที่ก็คือ 108 MP ที่ใช้งานไปแล้วตั้งแต่ Galaxy S20 Ultra (เป็นระยะเวลา 2 ปี)

ดังนั้นแล้วมันยังคงเป็นข่าวที่ต้องรอการพิสูจน์ หรือข้อมูลเพิ่มเติมที่แน่ชัดกันอีกที แต่ในเวลานี้บรรดาคู่ต่าง ๆ (ยกเว้น Apple) ได้เริ่มปล่อยข่าว-เปิดตัว การใช้งานเซนเซอร์ขนาด 200MP ทำให้ก็พอมีความเป็นไปได้ที่ Samsung จะตามน้ำใช้งานเซนเซอร์ที่ปล่อยขายให้ชาวบ้านบาง หรืออาจจะเซนเซอร์อีกตัวที่ก็มีข่าวถึงการพัฒนาอยู่ก็เป็นได้เช่นกัน

Samsung Galaxy S8 ได้รับการอัปเดต Firmware ใหม่

แม้จะแก่มานาน 5.5 ปีแล้ว แต่ก็ยังได้รับการดูแล และอัปเดตอยู่กับ Samsung Galaxy S8 ที่ได้รับการอัปเดตแก้ไข Firmware ใหม่ล่าสุด เมื่อไม่นานมานี้

(19 ส.ค. 2565) Samsung Galaxy S8 และ S8+ ได้ทำการปล่อยตัวเมื่อปี 2017 ทำให้ในเวลานี้สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวมีอายุการใช้งานนานถึง 5.5 ปีด้วยกัน โดยล่าสุดนี้นั้นมันก็ได้รับการอัปเดตระบบ หรือ Firmware ใหม่อยู่ หลังจากที่มีการอัปเดต “ครั้งสุดท้าย” เมื่อเดือนพฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา

Firmware ใหม่ ก็มาในรหัส G95*FXXUCDVG4 โดยเป็นการเพิ่มเติมเพื่อเข้ามาแก้ไข และพัฒนาในส่วนของความเสถียรของระบบ GPS เป็นหลัก รวมถึงการแก้ไขข้อบกพร่องอื่น ๆ เพียงแค่เล็กน้อย ซึ่งก็ขนาดไฟล์อัปเดตก็อยู่ 420MB

โดยตัว Firmware ดังกล่าวยังคงระบบปฏิบัติการของ S8 – S8+ ไว้ที่ Android 9 (และ Patch ความปลอดภัย เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564) อยู่ ในส่วนของตัว Firmware ที่ว่านั้นก็มีการรายงานกันมาว่ามันได้มีการปล่อยให้กับสมาร์ทโฟนรุ่นเก่า ๆ อื่น ๆ ด้วย อย่างเช่น Galaxy J7 ที่วางขายเฉพาะในเอเชีย

GalaxyClub ได้ทำการรายงานเพิ่มเติมว่า มีความเป็นไปได้ที่บรรดาสมาร์ทโฟนรุ่นเก่า ๆ จะทยอยได้รับการอัปเดตระบบบางส่วนไป โดยอาจจะได้เห็นตัวรุ่น Galaxy S7 (2016) และ  Galaxy S6 (2015) ได้รับการอัปเดตก็เป็นได้ 

ทั้งนี้แล้วนั้น นี้อาจจะเป็นการดำเนินการตามมาตรการที่ทาง Samsung ได้เคยประกาศไว้ถึงการยืดอายุการรับรองของระบบให้ออกไปนานขึ้นกว่าเดิม : 4 ปี สำหรับ OS และ 5 ปีสำหรับ Security Patches แม้มาตรการดังกล่าวจะเป็นสำหรับรุ่นหลังจากปี 2021 เป็นต้นไป แต่รุ่นก่อนหน้านี้ก็จะได้รับอาณิสงค์ในรูปของการอัปเดตเป็นเวลา 4 ปีสำหรับ Security Patches 

ทำให้มีความเป็นไปได้ที่รุ่นหลังจากนั้นที่ยังคงมีการใช้งานกันอยู่อาจจะได้รับการแก้ไขซ่อมแซมแบบเล็กน้อย ๆ อยู่ แต่การอัปเดตแบบใหญ่ Security Patches นั้น อาจจะมีแค่ตามที่ได้กล่าวไว้เท่านั้น ก็เป็นได้

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป